ตำรวจไซเบอร์ยันไม่มีข้อมูล 7 นักการเมืองเอี่ยวเว็บพนัน ใช้กัมพูชาเป็นแหล่งฟอกเงิน
ตำรวจไซเบอร์ยันไม่มีข้อมูล 7 นักการเมืองเอี่ยวเว็บพนัน ใช้กัมพูชาเป็นแหล่งฟอกเงิน
Blog Article
กรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน 123vip ที่โพสต์ข้อความว่ามี 7 นักการเมืองใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ การฟอกเงินในประเทศกัมพูชานั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ เผยว่า ในกรณีดังกล่าวหากตำรวจไซเบอร์มีหลักฐานที่ชัดเจนทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่างซึ่งการที่จ้าหน้าที่จะมีข้อมูลในส่วนตรงนี้ แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.รู้จากการสืบสวนสอบสวนหรือได้ข้อมูลจากสายข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามหรือออกนาม 2.การที่มีหลักฐานที่นำเข้าไปประกอบในสำนวนก่อนส่งอัยการนั้น จะต้องมีหลักฐานที่มีข้อเท็จจริงดังนั้น รายชื่อที่นายวิโรจน์พูดว่าทางตำรวจไซเบอร์รู้แล้วว่าเป็นใคร พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า ยังไม่ทราบว่าพูดถึงบุคคลใด และไม่รู้ว่ามีนักการเมืองท่านใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่แต่ที่ผ่านมา ก็มีคดี สจ.กอล์ฟ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ที่อยู่ประเทศกัมพูชา ทางตำรวจไซเบอร์เองก็ต้องมีข้อมูลอยู่แล้ว เพราะเป็นคนดำเนินคดีส่วนกรณีที่ ฮุนเซน เผยว่าว่าประเทศไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในการสร้างปัญหาให้กับคนทั่วทราบนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ เผยว่า จากสถิติของสากลโลกตรงกับข้อมูลสถิติของประเทศว่า แหล่งสแกมเซ็นเตอร์ 80% อยู่ที่ประเทศกัมพูชา และอีก 20% อยู่ประเทศพม่า รวมไปถึงสถิติการร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งการที่ฮุนเซนออกมาเผยแพร่แบบนี้ จะต้องเข้าไปดูว่าเราสามารถดำเนินคดีอะไรได้บ้าง เนื่องจากเป็นกล่าวหาและให้ข้อมูลเท็จผ่านทางโซเชียล
ส่วนมาตรการที่ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการในทุกวิถีทางตัดไฟ 123vip อินเตอร์เน็ต น้ำมัน ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้รับผลกระทบประมาณ 30% นั้น ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปรับวิธีการถ่ายโอนเงินจากระบบออนไลน์กลับมาใช้รูปแบบเดิม โดยใช้บัญชีม้ากดเงินในประเทศไทยก่อนนำส่งไปยังคนกลาง และส่งไปให้ตัวการใหญ่ของแก๊งจีนเทา เนื่องจากมาตรการของไทยที่ปรับมารับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นสร้างความลำบากให้กับพวกนี้เป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงมาตราการในครั้งนี้ เห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการเหล่านี้ได้มากขึ้น ทำให้สามารถนำทรัพย์สินกลับมาคืนสู่ประชาชนได้ไม่มากก็น้อยส่วนกรณีตึก 18 ชั้น และ 25 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ เผยว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์ได้พยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดเท่าที่ทำได้ และบูรณาการร่วมกับเจรตำรวจแห่งชาติ ในการกำชับให้ตำรวจในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตา จนรู้ว่าแรงสแกมเซ็นเตอร์มียู่รอบประเทศเราและอยู่ตรงไหนบ้าง ตำรวจไซเบอร์ก็พยายามเจาะข้อมูลต่างๆ เพื่อสืบทราบหาบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด